เรื่องย่อละคร พรายสังคีต



เรื่องย่อ พรายสังคีต

     การเปลี่ยนโจทย์เพลงกะทันหันที่ใช้ในการประกวดดนตรีไทยในระดับอุดมศึกษา ภายใต้ชื่องานว่า สังคีตศิลป์ถิ่นไทย ซึ่งเพลงที่เปลี่ยนปุ๊บปั๊บนั้นก็คือ จาก เพลงบุหลัน มาเป็น เพลงแขกมอญ ทำให้ผู้ดูแลวงอย่าง โฉมยงค์หนักใจ เพราะรู้อยู่แล้วว่านักดนตรีจากมหาลัยคู่แข่งมีความชำนาญในการเล่นเพลงแขกมอญ ทำให้ลูกศิษย์ของเธอนั้นตกเป็นรองตั้งแต่ยังไม่เริ่มแข่ง

     เมื่อวันแข่งขันใกล้เข้ามาเรื่อยๆ มีทางเดียวที่โฉมยงค์พอจะนึกขึ้นได้นั่นก็คือ การหาเพลงแขกมอญฉบับที่มีความแตกต่างออกไปจากคู่แข่ง และเธอมองไม่เห็นใครที่จะช่วยได้ นอกจาก ยชญ์ อดีตนักศึกษาของภาควิชาสังคีตศิลป์และยังเป็นเจ้าของร้านดนตรีไทยที่เก่าแก่ที่สุดร้านหนึ่ง เขาคือทายาทของตระกูล “วิจิตรวาทิน” ตระกูลนักดนตรีเก่าแก่ที่ได้สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น บรรพบุรุษที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคนหนึ่งในตระกูลคือ ครูพุก เป็นเอตทัคคะด้านการบรรเลงซอสามสาย ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่๕ และเพลง ท่วมธรณี เป็นบทเพลงแขกมอญทางเดี่ยวซอสามสาย  ที่ครูพุกได้ประพันธ์เอาไว้



     ยชญ์มีผู้ช่วยคนหนึ่งเธอชื่อ อิงอร ซึ่งยชญ์ชื่นชมการทำงานของเธอ และชมว่าเธอมีนิสัยดีโดยหารู้ไม่ว่าที่อิงอรมาทำงานกับยชญ์นั้นก็เพราะจะหาโอกาสขโมยโน้ตเพลงท่วมธรณี ตามคำสั่งของ ปกรณ์ แฟนหนุ่มผู้ที่มีแผลบนใบหน้าที่น่ากลัวด้านหนึ่ง และยังเป็นหลานของ นายกล้า ลูกชายบุญธรรมของ ครูเทิด

     ปกรณ์เป็นอีกหนึ่งคนที่ตกเป็นเหยื่อของบ่วงเวรบ่วงกรรมจากคำสาปของครูเทิด และเขายังเป็นผู้ที่ฝึกฝนสมาธิ จนสามารถใช้ทิพจักขุญาณเพื่อล่วงรู้อดีต ปัจจุบัน และอนาคตได้ แต่แผนการที่จะขโมยโน้ตเพลงของเขาก็ไม่สำเร็จ เพราะยชญ์ได้มอบสำเนาโน้ตเพลงทางเดี่ยวซอสามสาย พร้อมทั้งบทร้องให้กับโฉมยงค์เพื่อไปให้นักศึกษาได้ฝึกซ้อมสำหรับการประกวดแล้ว



     นักดนตรีที่จะทำการบรรเลงซอสามสายคือ เมญากร และผู้ขับร้องคือ พวงแพร และเหตุการณ์อันน่าประหลาดก็เกิดขึ้น ขณะที่เมญากรเห็นโน้ตเป็นครั้งแรกและกำลังจะตั้งท่าสีซอนั้น จู่ๆ สายซอทั้งสามก็ขาดพร้อมกันอย่างไม่รู้สาเหตุ ทั้งศิษย์และครูต่างก็รีบพากันจุดธูปเพื่อขอขมาเจ้าของบทประพันธ์ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ก่อนที่จะซ้อมกันต่อไป แต่ก็ยังมีเหตุการณ์แปลกๆ ชวนให้เด็กๆ คิดไปว่าเพลงท่วมธรณีนี้น่าจะมีอาถรรพ์อะไรสักอย่าง โดยหารู้ไม่ว่าจริงๆแล้วนั้นเป็นการกระทำของ ด็อกเตอร์ พิบูล เพื่อต้องการที่จะให้ทีมแพ้ เพราะเขาหวังตำแหน่งและหุ่นส่วนใหญ่กับมหาวิทยาลัยคู่แข่ง

     โฉมยงค์จับได้ว่าเป็นแผนการของ ด็อกเตอร์ ทำให้เด็กๆเลิกหวาดกลัวและกับมาซ่อมเพลงกันอย่างหนักหน่วง ปกรณ์ได้นั่งสมาธิและเขาก็ได้เห็นการตายของโฉมยงค์หลังจากการร้องเพลง ทำให้ปกรณ์รีบร้อนมาห้ามแต่เกิดวูบหมดสติเข้าโรงพยาบาลก่อน ด้านพวงแพรไม่สบายหนักทำให้โฉมยงค์ต้องร้องเพลงท่วมธรณีแทนไปก่อน



     ในระหว่างที่เขาซ้อมอยู่คนเดียวในห้องซ้อมนั้น คืนนั้นเป็นคืนที่พระจันทร์เต็มดวง โฉมยงค์รู้สึกถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับตัวเอง เลือดจำนวนมากไหลออกมาจากทวารทั้งเก้าของเธอ แม้ว่าจะพยายามหยุดร้อง แต่เธอกลับควบคุมตัวเองไม่ได้เลย เธอได้ขาดใจตายในห้องดนตรีทันทีที่ร้องเพลงท่วมธรณีจบ คำสาปของครูเทิดซึ่งเป็นพี่ชายของครูพุกที่เป็นเจ้าของบทประพันธ์ตัวจริง และคืนนั้นเป็นก็เป็นการปลุกวิญญาณของครูเทิดที่ถูกจองจำมานานให้ออกมา

     ตำรวจไม่สามารถหาสาเหตุการตายของโฉมยงค์ได้ สุดท้ายก็ได้ลงความเห็นว่าโฉมยงค์นั้นตายเพราะภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ขณะที่วิญาณของเทิดได้พยายามตามหา กล้า และ ดวง เพื่อที่จะแก้แค้น โดยไม่รู้เลยว่ากล้าที่เขาตามหานั้นกลับมาเป็นปกรณ์นั้นเอง ยชญ์ยังคงทำการซ้อมเพลงท่วมธรณีต่อไป ทั้งๆที่เขานั้นรู้สึกอะไรแปลกๆได้ ซึ่งพวงแพรเองก็รู้สึกไม่อยากจะร้อง



     เมื่อวันประกวดมาถึงพวงแพรได้ขึ้นร้องเพลงท่วมธรณี แต่แล้วทุกคนก็ต้องขวัญเสีย เมื่อพวงแพรนั้นเสียชีวิตในลักษณะเดียวกันกับโฉมยงค์บนเวทีประกวด ยชญ์และเมญากรเริ่มเชื่อว่า บทเพลงท่วมธรณีนั้นมีอาถรรพ์จริงๆ ทั้งสองจึงได้เริ่มลงมือสืบหาอาถรรพ์นี้ และในที่สุดก็ได้เจอกับปกรณ์โดยมีอิงอรเป็นสื่อให้ได้เจอกัน ทำให้รู้เรื่องราวเบื้องหลังของโน้ตเพลงท่วมธรณีว่าจริงๆแล้ว ผู้ประพันธ์เพลงนี้คือครูเทิดซึ่งเป็นพี่ชายของครูพุก

     ความแค้นในอดีตกับ กล้า ลูกชายบุญธรรม และ ดวง เมียรักในอดีต ที่ครูเทิดได้จับได้ว่าทั้งคู่เล่นชู้กัน เทิดได้สาบานว่าจะตามล่าหญิงร้ายชายเลวคู่นี้ไปจนกว่ามันทั้งสองจะตาย แม้ว่ามันจะตายแล้วก็ยังไม่สาแก่ใจ ครูเทิดยังได้แต่งเพลงสาปแช่งขอผูกพยาบาท ตามไล่ล่ากล้าและดวง รวมไปถึงหน่อเนื้อเชื้อไขของพวกมันทุกชาติไป แม้มีผู้ใดหยิบบทเพลงนี้มาร้องก็ต้องตายตามตกกันไปดั่งอาถรรพ์ที่ได้สาปไว้ ยชญ์และเมญากรได้พยายามแก้ไข แต่ความแค้นของครูเทิดนั้นแรงกล้ามากทำให้หลายคนต้องมาสังเวยความตาย ความอาฆาตของครูเทิดจะจบลงอย่างไรนั้น ติดตามได้ในละครเรื่อง พรายสังคีต ทุกวัน พุธ พฤหัสบดี เวลา 20.20 น. ทางช่อง7HD ละครเรื่องพรายสังคีต เสนอเป็นตอนแรกวันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์ 2563


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น